วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สารอาหารที่ร่างกายต้องการเมื่อมีความเครียด

ร่างกายเราต้องการอาหารเหมือนกับรถยนต์ต้องการน้ำมันเพื่อใช้เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน และน้ำมันเครื่องนั้นก็ต้องเหมาะสม เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ในความเร่งรีบของชีวิตประจำวันอาจทำให้หลายคนไม่ได้พิถีพิถันกับการเลือกอาหาร คิดแค่ว่ากินอะไรก็ได้เพื่อให้มีแรงทำงาน โดยไม่ใส่ใจว่าอาหารนั้นให้สารอาหารอื่นที่เป็นประโยชน์หรือไม่

เมื่อมีความเครียดร่างกายจะมีการนำสารอาหารหลายชนิดไปใช้ในการสร้างฮอร์โมน เพื่อช่วยในการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ และยังมีการขับสารอาหารบางชนิดออกทางปัสสาวะมากขึ้นด้วย จึงทำให้มีความต้องการสารอาหารบางชนิดเพิ่มขึ้น และหากมีความเครียดสะสมเป็นเวลานานด้วยอีก ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะอ่อนแอ ทำให้เจ็บป่วยง่าย จึงเป็นเรื่องที่ควรรู้ถึงสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพิ่มขึ้นเมื่อมีความเครียด
บางคนดำรงชีวิตระหว่างชั่วโมงทำงานที่เคร่งเครียดด้วยกาแฟนับสิบถ้วย ขนมหรือของว่างตามแต่จะหาได้ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวันจึงจบด้วยอาหารมื้อใหญ่ หลังจากนั้นไม่นานก็ต้องรีบเข้านอนเพื่อจะตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมที่เร่งรีบในวันต่อไป แต่บางครั้งความเครียดที่สะสมมาทั้งวันหรืออาหารมื้อใหญ่ที่เพิ่งผ่านไป กลับส่งผลให้เกิดปัญหานอนไม่หลับ ซ้ำยิ่งทำให้เครียดมากยิ่งขึ้น หากดำรงชีวิตเช่นนี้ไปเรื่อยๆ สุขภาพคงค่อยๆ เสื่อมถอยลดลง

สารอาหารที่ร่างกายต้องการเพิ่มขึ้นเมื่อมีความเครียด
วิตามินบีชนิดต่างๆ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงต่อการคลายความเครียด พบมากในผักใบเขียว ข้าวกล้อง จมูกข้าวสาลี ธัญพืช นม ไข่ และอาหารทะเล
วิตามินซี ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบมากในผลไม้โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง และในผัก เช่น พริก บล็อกโคลี มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ผักใบเขียว แตงต่างๆ
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบมากในถั่วเปลือกแข็ง งา จมูกข้าวสาลี
โปแตสเซียม ช่วยในการรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นสม่ำเสมอ ควบคุมความดันโลหิต และจำเป็นสำหรับการส่งสัญญานประสาททุกชนิด พบมากในอาหารจากพืช เช่น ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชที่ไม่ขัดสี ผลไม้แห้ง มันฝรั่ง มะเขือเทศ และผลไม้ โดยเฉพาะกล้วยและส้ม
แมกนีเซียม มีหน้าที่ช่วยในการส่งสัญญานประสาท พบมากในข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง และผักใบเขียว
สังกะสี มีหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน พบมากในเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ตับ ไข่แดง นม ธัญพืช และอาหารทะเล

จะเห็นว่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพื่อใช้ต่อสู้กับความเครียด มีอยู่ในอาหารทั่วๆไปที่หาซื้อได้ง่าย หากท่านยังนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรดี ก็แนะนำให้ลองดูตัวอย่างเมนูอาหารคลายเครียดด้านล่าง

ตัวอย่างเมนูคลายเครียด
อาหารเช้า น้ำเต้าหู้ใส่เครื่องโรยงาหรือจมูกข้าวสาลี + ผลไม้สด
หรือ แซนวิชทูน่า(ทำจากขนมปังโฮลวีท) + นม/โยเกิร์ตชนิดพร่องไขมัน + ผลไม้สด/น้ำผลไม้
อาหารกลางวัน ข้าวราดผัดกระเพรา + ผลไม้ปั่น/สมูทตี้
หรือ เย็นตาโฟ/บะหมี่หมูแดง + เต้าฮวยฟรุ้ตสลัด
อาหารว่างบ่าย ถั่วลิสงต้ม/อบ หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ หรือกล้วยปิ้ง หรือผลไม้สด หรือนม/โยเกิร์ต
ชนิดพร่องไขมัน
อาหารเย็น ข้าวต้มปลา + ผลไม้สด
หรือ ข้าว + แกงส้มผักรวมใส่กุ้ง + ไข่เจียว +ผลไม้สด

อย่างไรก็ตามบางท่านอาจมีงานยุ่งจนแทบหาเวลากินไม่ได้ หรือทำงานที่ต้องเดินทางตลอด ทำให้บางช่วงอาจไม่สามารถแวะหาของกินได้ หากเป็นเช่นนี้การหาอาหารมีประโยชน์และไม่เสียง่าย ติดไว้ในที่ทำงานหรือในรถเพื่อกินรองท้องแทนขนมหวานชนิดต่างๆ อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ตัวอย่างของอาหารเหล่านี้ เช่น แครกเกอร์โฮลวีท ถั่วชนิดต่างๆ นมพร่องไขมันชนิดยูเอชทีหรือสเตอริไรส์ น้ำผลไม้ชนิดยูเอชที เป็นต้น และเมื่อทำธุระต่างๆ เสร็จสิ้นแล้วก็อย่าลืมหาอาหารประเภทธัญพืชที่ไม่ขัดสี ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ไม่ติดมันชนิดต่างๆ และผลไม้สดกินเพิ่มเติมในปริมาณที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ท่านก็ได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้พลังงานแก่ร่างกาย มีประโยชน์ช่วยในการผ่อนคลายความเครียด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน(ทั้งนี้ควรงดอาหารหวานจัด หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้มีผลทำให้เกิดการสูญเสียสารอาหารต่างๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น)

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กินดี...เซ็กส์ดี จริงหรือ?



มนุษย์เราให้ความสำคัญกับอาหารการกินมานาน และนับเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตที่ขาดไม่ได้ จะชั่วดีมีจนอย่างไรก็ต้องกิน ไม่ว่าจะ “กินเพื่ออยู่” “อยู่เพื่อกิน” “กินดีอยู่ดี” “กินได้กินดี” หรือ”กินบ้านกินเมือง”

มาเรื่องของเราดีกว่า จะเห็นได้ว่าระยะ 3-4 ปี ที่ผ่านมานี้ กระแสการกินเพื่อดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็จะเห็นว่าแทบทุกร้านอาหารมักจะชูประเด็นสำคัญในเรื่องการดูแลสุขภาพ ว่ามีสรรพคุณช่วยในการเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเรื่องอาหารจะว่าเป็นแฟชั่นก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะแฟชั่นมาเร็วไปเร็ว เปลี่ยนแปลงบ่อย แต่กับกระแสการกินเพื่อสุขภาพนั้น ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นและคงอยู่ได้นาน

และในหลายๆ สรรพคุณของอาหารนั้น ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เชื่อแน่ว่าหลายท่านคงให้ความสนใจ ก็คือสรรพคุณในเรื่องสุขภาพทางเพศนั่นเอง อันที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มนุษย์เราให้ความสนใจมาแต่โบราณแล้ว ลองมาดูกันครับว่า มีอาหารอะไรบ้างที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพทางเพศ ซึ่งบางอย่างก็เป็นแค่อาหารพื้นๆ ธรรมดา ที่เราๆ ท่านๆ อาจนึกไม่ถึงเลยทีเดียว

อย่างแรกที่อยากแนะนำคือ “กล้วย” ผลไม้พื้นบ้านธรรมดาที่หาได้ง่ายๆ ตามตลาดและซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป อย่าดูถูกเจ้าผลไม้ดึกดำบรรพ์ผลสีเหลืองสวยนี้เป็นอันขาดเชียวนะ เพราะนอกจากแป้งและน้ำตาล ที่ให้พลังงานอย่างดีแล้ว กล้วยนั้นยังมีคุณประโยชน์ในเรื่องเซ็กส์ มากอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว ในผลกล้วยอุดมไปด้วยแร่ธาตุ โปแตสเซียม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท นอกจากนี้แล้วโปแตส เซียม ยังมีส่วนในเรื่องช่วยการทำงานของหัวใจ และความดันโลหิตให้เป็นปกติด้วย

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ที่สุดของยานพาหนะ

รถยนต์ (Car) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ The Bugatti 'Royale' หรือ 'Golden Bugatti' เป็นรถ 8 สูบ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1927 ตัวรถยาวกว่า 6.7 เมตร (22 ฟุต)

รถยนต์ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ 26 ล้อ ยาว 30.5 เมตร (100 ฟุต) ซึ่งออกแบบโดย Jay Ohrberg ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำและเตียงน้ำขนาดยักษ์

รถจักรยานคันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรยานคันที่ชื่อ 'Frankencycle' ที่ออกแบบโดย Dave Moore ในสหรัฐฯ เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อวัดได้ 3.05 เมตร (10 ฟุต) และ สูง 3.40 (11 ฟุต 2 นิ้ว)

รถจักรยานคันที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรยานสำหรับ 4 คนขับ สร้างในประเทศนิวซีแลนด์ วัดความยาวได้ 22.24 เมตร (72 ฟุต 11 1/2 นิ้ว)

รถจักรยานยนต์ (Motorcycle) ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรยานยนต์ที่มีชื่อว่า 'Big Ben' เป็นรถขนาด 250 cc ตัวถังรถยาว 7.6 เมตร (24 ฟุต 11 นิ้ว) อยู่ในประเทศออสเตรเลีย

รถโดยสาร (Bus) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ DAF Super City Train buses ซึ่งมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร 110 ที่ และห่วงจับจำนวน 140 ที่ในรถช่วงแรก และมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารจำนวน 60 ที่และห่วงจับจำนวน 40 ห่วงในรถช่วงที่สอง รถคันนี้หนัก 28 ตัน อยู่ในประเทศคองโก

รถพ่วง (Caravan) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถพ่วง 5 ชั้น สร้างใน ปี ค.ศ. 1990 สำหรับ Sheik Hamad Bind Hamdam AI Nahyan แห่งอาบูดาบี สาธารรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ซึ่งยาว 20 เมตร (66 ฟุต) กว้าง 12 เมตร (39 ฟุต) และหนัก 120 ตัน มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำ 8 ห้อง มีที่จอดรถได้ 4 คัน

รถยกบรรทุก (Fork - lift truck) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถยกบรรทุกของบริษัท Kalmar LMV of Lidhult ในประเทศสวีเดน มีสมรรถนะในการบรรทุกกว่า 90 ตัน

รถพยาบาล (Ambulance) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถพยาบาลที่ดำเนินการโดย the ACROSS Trust เป็นรถที่เดินทางข้ามทวีปยุโรป ตัวรถยาว 18 เมตร (59 ฟุต) สร้างในเบลเยี่ยมสามารถบรรทุกเจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยได้ 44 คน

รถบรรทุกขยะ (Dumper truck) คันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถ The Terex Titan ของบริษัท General Motors Corporation ซึ่งบรรทุกได้หนัก 317.5 ตัน ตัวรถสูง 17 เมตร (56 ฟุต) เป็นรถ 16 สูบ บรรจุน้ำมันได้ 5,910 ลิตร (1,300 แกลลอน)

รถไฟโดยสาร (Passenger train) ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถไฟโดยสารของบริษัท the National Belgian Railway Company ซึ่งประกอบด้วยตู้โดยสาร 70 ตู้ ซึ่งลากจูงโดยหัวรถจักรไอน้ำหัวเดียว วัดได้ยาว 1,732.9 เมตร (1,895 หลา) มีน้ำหนักรวม 2,786 ตัน

รถไฟสินค้า (Freight train) ที่ยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ รถไฟสาย Sishen - Saldanha railway ในอัฟริกาใต้ ซึ่งมีรถบรรทุกสินค้าพ่วง 660 คัน (แต่ละคันบรรทุกสินค้า 105 ตัน) ตัวรถยาว 7.3 กิโลเมตร (4 1/2 ไมล์) และแล่นได้ระยะทาง 861 กิโลเมตร (535 ไมล์) ในเวลา 22 ชั่วโมง 40 นาที

รถจักรไอน้ำ (Steam locomotive) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถจักรไอน้ำสาย the South African Raiways GMA Garratt สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1952 - 1954 มีน้ำหนักรวม 187.4 ตัน

รถกวาดหิมะ (Snow plough) คันใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถกวาดหิมะที่ออกแบบโดย Thomas Sedgwick รถคันนี้มีใบมีดกว้าง 9.83 เมตร (32 ฟุต 3 นิ้ว)

รถตัดหญ้า (Lawn mower) คันที่มีความกว้างมากที่สุดในโลก
ได้แก่ รถตัดหญ้าที่ชื่อ 'Big Green Machine' ของชาวนาในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งกว้าง 18 เมตร (60 ฟุต) สามารถตัดหญ้าในเนื้อที่ 1 เอเคอร์เสร็จภายใน 60 วินาที

รถขุดดิน (Excavator) คันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ รถขุดดิน ซึ่งมีตัวถังหนัก 13,000 ตัน ตัวรถยาว 210 เมตร (690 ฟุต) และสูง 82 เมตร (269 ฟุต) มีเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ 67.88 เมตร (222 ฟุต)

เครื่องบินโดยสาร (Airliner) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เครื่องบิน Boeing 747 - 400 ของบริษัท Northwest Airlines ซึ่งมีปีกกว้าง 64.9 เมตร (213 ฟุต) มีระยะทางบิน 13,340 กิโลเมตร (8,290 ไมล์) สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้กว่า 566 คน

เครื่องบินทิ้งระเบิด (Bomber) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เครื่องบิน The B - 52 มีลำตัวเครื่องยาว 160 ฟุต 11 นิ้ว

เครื่องบินขนส่งสินค้าที่กว้างขวางที่สุดในโลก
ได้แก่ เครื่องบิน The Airbus Super Transporter A300 - 600ST Beluga สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 150 ตัน ลำตัวเครื่องบินยาว 56.16 เมตร (184 ฟุต 3 นิ้ว) มีเนื้อที่สำหรับใช้บรรทุกสินค้า 37.70 เมตร (123 ฟุต 8 นิ้ว)

เฮลิคอปเตอร์ (Helicopter) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ The Russian Mil Mi - 12 เครื่องยนต์ turboshaft ใบพัดวัดได้ 67 เมตร (219 ฟุต 10 นิ้ว) ลำตัวยาว 37 เมตร (121 ฟุต 4 1/2 นิ้ว)

เฮลิคอปเตอร์ให้บริการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ The Russian Mil Mi - 26 ซึ่งมีน้ำหนักบรรทุก 56,000 กิโลกรัม (123,500 ปอนด์) ลำตัวเครื่องยาว 32 เมตร (105 ฟุต)

เรือเหาะ (Airship) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือเหาะของเยอรมนี 2 ลำ ที่ชื่อ Hindenburg และ Graf Zeppelin II ทั้งสองลำมีความยาว 245 เมตร (803 ฟุต 10 นิ้ว) น้ำหนัก 213.9 ตัน เรือเหาะ Hindenburg บินเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1936 ส่วน Graf Zeppelin II ให้บริการระหว่างปี ค.ศ. 1928 - 1939

เรือเหาะที่ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือเหาะชื่อ the WDL 1 B ซึ่งสร้างโดยบริษัท Mulheim ประเทศเยอรมนี มีลำตัวยาว 60 เมตร (197 ฟุต)

บัลลูน (Balloon) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ บัลลูนของบริษัท Winzen Research Inc ในรัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีปริมาตรบรรจุก๊าซ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร สูง 300 เมตร (1,000 ฟุต) แต่มันไม่ลอยขึ้นจากพื้นและโดนทำลายไปเมื่อปี 1975

เรือโดยสาร (Liners) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือโดยสาร Carnival Cruise Line's Carnival Destiny ซึ่งมีลำตัวยาว 272 เมตร (893 ฟุต) และกว้าง 38 เมตร (125 ฟุต)

เรือโดยสารที่มีขนาดลำเรือยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือโดยสาร the Norway ของบริษัท Norwegian Cruise Line ลำตัวเรือยาว 315.53 เมตร (1,035 ฟุต 7 1/2 นิ้ว) มีห้องพักสำหรับลูกเรือ 900 คน และผู้โดยสาร 2,032 คน

เรือโดยสารข้ามฟาก (Ferries) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ The Silja Europa ซึ่งบริการระหว่างกรุงสต็อกโฮม ประเทศสวีเดน กับกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ลำตัวเรือยาว 201.8 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 3,000 คน รถยนต์ 350 คัน และรถบรรทุก 60 คัน

เรือโดยสารข้ามฟากนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Klaipeda, Vilnius, Mukran และ Greifswald ที่สร้างในประเทศเยอรมนี ซึ่งให้บริการในทะเลบอลติก ระหว่าง Klaipeda, Lithuania และ Mukran ประเทศเยอรมนี แต่ละลำหนัก 11,513 ตัน มีลำตัวเรือ รวมดาดฟ้า 2 แห่งยาว 190.5 เมตร (625 ฟุต) และกว้าง 91.86 เมตร (301 ฟุต 5 นิ้ว)

เรือสินค้า (Cargo vessel) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือบรรทุกน้ำมันที่ชื่อ the Jahre Viking น้ำหนักบรรทุก 564,763 ตัน ตัวเรือยาว 458.45 เมตร (1,504 ฟุต)

เรือสำเภา (Junk) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือสำเภา Zheng He ของบริษัท Admiral Zheng He ที่ให้บริการทางทะเลมาตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1420 จำนวน 62 ลำ แต่ละลำมีความยาวแตกต่างกันไป ลำยาวที่สุดคือ 164 เมตร (538 ฟุต)

เรือโดยสารไฮโรฟอยล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือโดยสาร Supramar PTS 150 MK IIIs หนัก 165 ตัน ที่ให้บริการระหว่างประเทศสวีเดน และเดนมาร์ก บรรทุกผู้โดยสารได้ 250 คน ความเร็ว 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (40 นอต)

เรือโฮเวอร์คราฟท์ (Hovercraft) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ The SRN4 Mk III ต่อในประเทศอังกฤษ มีน้ำหนัก 300 ตัน บรรทุกผู้โดยสารได้ 418 คน และรถยนต์ 60 คัน ตัวเรือยาว 56.38 เมตร (185 ฟุต) ข้ามช่องแคบในอัตราความเร็ว 65 นอต

เรือใบ (Sailing ship) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ the France II ซึ่งต่อใน Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส มี 5 ใบเรือ วัดได้ 127.4 เมตร (418 ฟุต) เป็นเรือใบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมา แต่มันอับปางนอกฝั่ง New Caledonia ในทะเลแปซิฟิกใต้ เมื่อปี ค.ศ.1922

เรือใบยนต์ที่มีขนาดยาวที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Club Med 1 ที่ต่อในฝรั่งเศส มีเสา 5 เสา ลำตัวเรือยาว 187 เมตร (613 ฟุต) ควบคุมใบเรือด้วยคอมพิวเตอร์ บรรทุกผู้โดยสารได้ 425 คน

เรือยอร์ช (Yacht) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Saudi Arabian royal yacht ชื่อ Abdul Aziz ที่ต่อในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1987 ลำเรือยาว 147 เมตร (482 ฟุต) มีมูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (61 ล้านปอนด์)

เรือยอร์ชส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ Alexander ซึ่งยาว 120 เมตร (400 ฟุต) เดิมเป็นเรือเฟอรี่ แต่ดัดแปลงมาเป็นเรือยอร์ช เมื่อปี ค.ศ. 1986

เรือรบ (Battleships) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือรบของญี่ปุ่น ชื่อ Yamato และ Musashi ซึ่งมีน้ำหนักบรรทุก 67,884 ตัน ลำตัวเรือยาว 263 เมตร (863 ฟุต) ประกอบไปด้วย อาวุธประจำเรือ คือ ป้อมปืน 3 ป้อม ปืนลำกล้องขนาด 460 มิลลิเมตร 9 กระบอก ปืนแต่ละกระบอกหนัก 164.6 ตัน ลำกล้องยาว 22.8 เมตร (75 ฟุต)

เรือรบบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ USS Nimitz ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลำตัวเรือยาว 332.9 เมตร (1,092 ฟุต) ดาดฟ้ามีเนื้อที่ 4 1/2 เอเคอร์ เร่งความเร็วได้กว่า 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (30 นอต) มีระวางขับน้ำ 91,400 ตัน

เรือรบ (Warship) ที่แล่นเร็วที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ US Navy hovercraft ซึ่งมีลำตัวเรือยาว 23.7 เมตร (78 ฟุต) เร่งความเร็วได้ถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (91.9 นอต)

เรือดำน้ำ (Submarine) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ the Russian Typhoon ระวางขับน้ำ 26,500 ตัน ตัวเรือยาว 171.5 เมตร (562 ฟุต 8 นิ้ว)

เรือดำน้ำที่มีความเร็วที่สุดในโลก
ได้แก่ เรือ The Russian Alpha เป็นเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ มีความเร็วกว่า 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (40 นอต)

รถถังที่แล่นเร็วที่สุดในโลก
ได้แก่ the British Scorpion ซึ่งสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 80 กิโลเมตรต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เคล็ดลับ วิธีแก้นิสัยขี้ลืม ด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ

ตั้งสมาธิ สาเหตุ หนึ่งที่ทำให้หลงลืมบ่อยเพราะไม่มีสมาธิ หรือมีสารพัดเรื่องเข้ามาแทรกแซงอยู่ตลอดเวลา อย่าให้มีอะไรมากวนสมาธิบ่อยนัก จัดเวลาช่วงหนึ่งงดรับโทรศัพท์และติดป้ายห้ามรบกวนไว้ที่โต๊ะ หาเวลานั่งเงียบๆ หลับตา หายใจเข้าช้าๆ เพื่อให้เกิดความสงบ
จดโน้ต ถ้าทำงานที่มีความซับซ้อนหรือมีหลายงาน ควรรีบโน้ตสั้นๆ ว่าจะทำอะไรต่อไป ส่วนที่ชอบลืมแล้วลืมอีกควรจดโน๊ตต่างๆ เพื่อช่วยเตือนความจำอีกที
ใส่ใจ การ ที่คนเราลืมอะไรบ่อยๆ อาจะเป็นเพราะไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนั้น ถ้าใครพูดอะไรด้วยแล้วลืม หรือจำชื่อคนไม่ค่อยได้ ลองหันมาสนใจตั้งใจฟังสักนิด ก็จะช่วยให้จำได้ดีขึ้น
ท่องจำ การท่องเป็นวิธีช่วยจำที่ตรงไปตรงมาที่สุด เด็กนักเรียนจำคำศัพท์ต่างๆ ได้ดีขึ้น เพราะท่องจำเนี่ยแหละ ถ้าหมั่นท่องสิ่งที่ต้องทำบ่อยๆ ได้จากการฟัง ได้ดีขึ้น
พูดออกเสียง เคยสังเกตไหมว่าเราสามารถจดจำเรื่องต่างๆ ได้จากการฟัง การพูด ออกมาทำให้เราได้ยินเสียงของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้จำง่ายขึ้น
พูดคุยหรือเล่าให้คนอื่นฟัง ก็เป็นการช่วยจำทางหนึ่ง และการเล่าให้คนอื่นฟังรู้เรื่อง ตัวเราเองต้องเข้าใจเรื่องนั้นอย่างดีและจำได้ดี ถ้าอยากจำเรื่องที่ประชุม สัมมนา หรืออบรมได้ดีขึ้นลองพูดคุยหรือเล่าให้เพื่อนฟัง
ทำ mind mapping ถ้า จะทำโครงการต่างๆ ลองเริ่มจากการเขียนแผนผังใส่หัวข้อต่างๆ ลงไป มีหัวข้อหลักและรายละเอียดด้วยก็จะทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมดและช่วยจำได้ ที่สำคัญนอนหลับให้พอ ถ้านอนเต็มอิ่มก็จะช่วยให้จำดีขึ้น