วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปวดเมื่อยอย่าทน MYOTHERAPY ช่วยคุณได้

วิถีชีวิตของคนทำงานออฟฟิศที่มีรูปแบบการทำงานแบบซ้ำๆ ทั้งนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน
หรือการเข้าประชุมที่มีแต่ความเครียดเป็นเวลานานๆ และต้องทำงานยุ่งกับตัวเลข และการที่ต้องสะพายกระเป๋าใบใหญ่หรือหิ้วคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไปพบลูกค้า ความซ้ำซากของการทำพฤติกรรมเหล่านี้ ส่งผลให้คนทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่ มีอาการปวดเมื่อยตลอดเวลาทั้งๆที่อายุก็ยังไม่มาก จนนำไปสู่อาการอื่น อาทิเช่น ปวดไมเกรน ปวดคอ บ่า หลัง รวมถึงการนอนไม่หลับ หรือหลับและตื่นบ่อย ตอนเช้ามีอาการมึนศีรษะไม่สดชื่น ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องหันไปผ่อนคลายความปวดเมื่อยจากการนวดสปา นวดแผนโบราณ และเพิ่มเติมเรื่องการใช้ยาแก้ปวด หรือยาคลายกล้ามเนื้อเป็นประจำ แต่อาการดังกล่าวยังคงเป็นอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์ดูแลกล้ามเนื้อและโรคปวด DOCTORCARE ใช้ประสบการณ์กว่า 3 ปี ในการรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อและโรคปวดเรื้อรังกว่า 1,200 คน คิดค้นและ พัฒนาโปรแกรม MYOTHERAPY (ไมโอเทอร์ราปี โดย Myo แปลว่า กล้ามเนื้อ) ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลกล้ามเนื้อบำบัดอาการที่เกี่ยวข้องกับการ ทำงานออฟฟิศ และการใช้คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ด้วยโปรแกรมการบำบัดเพียง 45 นาที
โปรแกรม MYOTHERAPY เป็นโปรแกรมพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล ทำให้วิธีการและขั้นตอนการบำบัดของแต่ละคนแตกต่างกันไป เนื่องจากปัญหาและตำแหน่งของการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน โดยโปรแกรมได้ผสมผสานเทคนิคการคลายกล้ามเนื้อและการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ที่หลากหลายเพื่อประสิทธิภาพในการคลายตั้งแต่กล้ามเนื้อชั้นบน จนถึงกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกสุด ด้วยวิธีการ
1. ยืดกล้ามเนื้อ (Stretching) สำหรับการคลายกล้ามเนื้อมัดใหญ่
2. นวดแบบกดลึก (Deep Tissue Massage) สำหรับกล้ามเนื้อส่วนบน และกล้ามเนื้อ มัดเล็ก
3. นวดกดจุด (Accupressure) สำหรับการคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกสุด และ Trigger Point
4. การทำ Joint Manipulation สำหรับการทำให้ข้อต่อต่างๆ เคลื่อนไหว ได้อย่างปกติ ป้องกันแคลเซี่ยมมาเกาะหัวไหล่และเข่า
5. การออกแบบท่าบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน (Exercise Prescription) ที่ถูกออกแบบขึ้นสำหรับคุณ เพื่อการป้องกันการกลับมาของการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
ด้วยการทำงานร่วมกันของเทคนิครักษาแบบเฉพาะนี้ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อที่มีการเกร็งตัวสะสม ในทุกระดับคลายตัวออกอย่างรวดเร็ว ลดการกดทับเส้นเลือด และเส้นประสาท ส่งผลให้ระบบการไหลเวียน ของเลือด และการสั่งงานของเส้นประสาทเป็นไปได้อย่างปรกติ ทำให้ความรู้สึกหนักจากการกดทับ บริเวณคอ บ่า หายไป อาการมึนศีรษะ หรือ ตาพร่า ไม่สดชื่นดีขึ้น เนื่องจากเลือด และออกซิิเจน สามารถไปเลี้ยงบริเวณศีรษะและตาได้ อาการชาต่างๆ หายไป และผลในระยะยาวจะช่วยให้มีสุขภาพและบุคลิกที่ดีขึ้น และยังเคลื่อนไหวได้คล่องตัวไม่ติดขัด และป้องกันการก่อตัวของโรคปวดต่างๆ เมื่ออายุมากขึ้น
นอกจากนี้ แพทย์อายุรเวท วิภาพร สายศรี แพทย์อายุรเวทประจำ DOCTORCARE ได้ศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตในที่ทำงานของผู้ป่วยและพบว่า 5 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง ในที่ทำงานคือ
1. พฤติกรรมการสะบัดคอหรือหลังให้มีเสียงดัง เพราะเชื่อว่าทำให้หายเมื่อย แต่ความจริงพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ข้อต่อกระดูกหลวม
2. การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องกันเกิน 2 ชั่วโมง เพราะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า และสะบักเกร็งตัวมากเกินไป
3. การนั่งไขว่ห้างเวลาทำงาน เพราะส่งผลต่อการเกร็งกล้ามเนื้อหลังทำให้ปวดหลังส่วนล่าง
4. การใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คในที่ทำงาน แทนการใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ เพราะต้องก้มคอและเกร็งแขนมาก
5. การสะพายกระเป๋าใบใหญ่ๆ และมีน้ำหนักมาก รวมไปถึงการพกพาโน้ตบุ๊คไปด้วยทุกที่และถือเป็นเวนาน ส่งผลต่อกล้ามเนื้อไหล่เกิดอาการเกร็ง และเกิดอาการปวดไหล่
นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับดีๆ ที่ควรทำมาฝาก คือ
1. ควรวางแขนตั้งแต่ศอกลงไปถึงข้อมือไว้บนโต๊ะเวลา ใช้คียบอร์ด และยืดกล้ามเนื้อประมาณ 10 นาที เมื่อการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันสองชั่วโมง
2. ควรใช้กระเป๋าแบบล้อลากแทนกระเป๋าสะพายคอมพิวเตอร์และเอกสารหนักๆ เวลาไปพบลูกค้า
3. ใช้หมอนรองบริเวณหลัง เวลานั่งเก้าอี้สำนักงาน เพื่อป้องกันการปวดหลัง
4. พบผู้เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อ เพื่อตรวจสอบเมื่อมีอาการเมื่อยบ่อย ไม่ควรปล่อยจนมีอาการปวด
โปรแกรม MYOTHERAPY ได้คัดสรรบุคลากรที่ผ่านการเรียน และฝึกปฎิบัติด้่าน การคลายกล้ามเนื้อ มาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ทำให้การบำบัดเป็นไปอย่างถูกต้องตาม หลักกายวิภาคไ ม่มี อันตรายและผลข้างเคียง

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ดูแลกล้ามเนื้อและโรคปวด DOCTORCARE

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น