วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

ชารล์ เดอ มองเตสกิเออร์ (Charles de Montesqieu)



ชารล์ เดอ มองเตสกิเออร์ (Charles de Montesqieu)
หรือ ชารล์ หลุยส์ เดอ เซก้องม บารอน เดอ ลา เบร์ด เอ็ท เดอ มองเตสกิเออร์ (Charles Louis de Secondat, baron de la Brede et de Montesquieu)
เกิด: ใกล้ บอกด์โดซ์ ในปี ค.ศ. 1689
เสียชีวิต: ปารีส ในปี ค.ศ. 1755

มองเตสกิเออร์เป็นหนึ่งในบรรดาตัวแทนที่ทรงอิทธิพลและเป็นที่รู้จักในยุคภูมิธรรมในฝรั่งเศส ความสนใจในศาสตร์ต่างอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ประวัติศาสตร์ ปรัชญา กฎหมาย และการเมือง ส่งผลให้เขาโลดแล่นอยู่บนเส้นทางอาชีพอันโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษา นักการเมือง นักประพันธ์รวมทั้งนักคิดทางการเมือง ในฐานะนักวิชาการผู้ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์การเมืองโบราณ เขาได้ประพันธ์งานเรื่อง “The Guardeur and Decadence of Romans” (1734) ในขณะเดินทางอย่างต่อเนื่องเพื่อศึกษาการพัฒนาทางการเมืองของยุโรป หลังจากพำนักอยู่ในอังกฤษเป็นเวลา 2 ปี และเป็นที่ชื่อชมของจอห์น ล็อค (John Lock) และรัฐสภาอังกฤษ มองเตสกิเออร์ได้ประพันธ์งานที่โด่งดังไปทั่วเรื่อง “The Spirits of the Laws” ซึ่งเป็นหนังสือที่เป็นที่กล่าวขวัญทั่วยุโรปหลังจากได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1748 เป็นช่วงเวลาที่เขาได้สร้างสิ่งที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบันนี้ กล่าวคือ ทฤษฎีแบ่งแยกอำนาจในระบอบการปกครองที่เสรีและใช้ได้จริง หากปราศจากการการคานอำนาจกันระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการก็จะไม่เกิดเสรีภาพและการป้องกันการใช้อำนาจในทางที่ผิด พื้นฐานแนวคิดดังกล่าวกลายเป็นต้นแบบของแนวคิดประชาธิปไตยเสรีที่นำมาใช้ในประเทศที่มีอารยะทั่วโลก แม้ว่าระบอบเผด็จการยังอยู่รอดอย่างดีมาด้วยก็ตาม

ความสนใจในแนวคิดเสรีนิยมโดยเฉพาะเป็นเครื่องเน้นย้ำให้เห็นถึงเสรีภาพทางการเมือง หลายคนมองว่าผลงานเรื่อง“Spirit of the Laws” ของเขานั้นเป็นการเริ่มต้นอย่างชาญฉลาดของแนวคิดการเมืองเสรีนิยมและให้ความสำคัญกับอิทธิพลของมองเตสกิเออร์ที่มีต่อหลักการของการตรวจสอบและคานอำนาจในรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา

มองเตสกิเออร์กล่าวไว้อย่างน่าเชื่อถือว่าการมองอำนาจทางการเมืองจากความเป็นจริงว่ามีแนวโน้มที่จะนำไปใช้ในทางที่ผิดจากผู้มีอำนาจในมือทำให้เกิดการลดการตัดสินใจและการเพิ่มเติมระเบียบของกฎหมายที่ไม่สามารถอธิบายได้ ไม่เพียงในด้านความปลอดภัยส่วนตัวและพลประโยชน์ของพลเมืองเท่านั้น แต่รวมถึงผลประโยชน์และข้อได้เปรียบจากการแข่งขันที่มีต่อรัฐด้วย

มองเตสกิเออร์กล่าวไว้อย่างน่าเชื่อถือว่าการมองอำนาจทางการเมืองจากความเป็นจริงว่ามีแนวโน้มที่จะนำไปใช้ในทางที่ผิดจากผู้มีอำนาจในมือทำให้เกิดการลดการตัดสินใจและการเพิ่มเติมระเบียบของกฎหมายที่ไม่สามารถอธิบายได้ ไม่เพียงในด้านความปลอดภัยส่วนตัวและพลประโยชน์ของพลเมืองเท่านั้น แต่รวมถึงผลประโยชน์และข้อได้เปรียบจากการแข่งขันที่มีต่อรัฐด้วย

มองเตสกิเออร์ยังเป็นต้นแบบในเศรษฐศาสตร์การเมืองจากการศึกษาความแตกต่างของการพัฒนาเศรษฐกิจของยุโรปและเอเชียรวมทั้งให้ความสำคัญกับการแข็งขันในตลาดเสรีเพื่อกำหนดราคาที่ถูกต้องให้แก่สินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น